วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

Samsung Galaxy Camera 2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว


Samsung ส่ง Galaxy Camera 2 ออกมาต่อยอดรุ่นแรกอย่างเป็นทางการแล้วเมือคืนที่ผ่านมา โดย Galaxy Camera 2 กล้องถ่ายรูปบนระบบปฏิบัติการ Android จากภาพที่เห็นนั้น Galaxy Camera 2 เปลี่ยนหน้าตาไปจากร Samsung Galaxy Camera รุ่นแรกพอสมควร


นั้นหมายความว่า Galaxy Camera 2 ยังไม่มีช่องใส่ซิมการ์ด และยังไม่รองรับเครือข่าย 3G/LTE เช่นรุ่นแรก ความละเอียดของกล้องก็ยังเท่าเดิมนั้นเพิ่มเป็น 16.3 นั้นถือว่าไม่ได้ต่างจากรุ่นแรกคือ กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels แต่โชว์จุดเด่นตรงสามารถซูมได้สูงสุด 21 เท่า

ชมเป็นน้ำจิ้ม กับภาพคอนเซปท์ iPhone 6 และ iPhone 6C พร้อม iOS 8


ชมเป็นน้ำจิ้ม กับภาพคอนเซปท์ iPhone 6 และ iPhone 6C พร้อม iOS 8

ถึงแม้ในตอนนี้ จะยังไม่มี ข่าวลือ เกี่ยวกับ iPhone 6 และ iPhone 6C มากนัก แต่ล่าสุด Eric Vasille จาก iPhonesoft ได้เผย ภาพคอนเซปท์ iPhone 6 และ iPhone 6C เวอร์ชันรัน iOS 8 ออกมาให้ชมกันครับ



โดยไอเดียของ Eric Vasille นี้ เน้นให้ iPhone 6 และ iPhone 6C มีดีไซน์ที่บางเฉียบ ซึ่งได้ iPad Air เป็นแรงบันดาลใจ โดยตัวเครื่องบางเพียง 6 มิลลิเมตร พร้อมกับกล้องด้านหลังที่คมชัด ละเอียดถึง 20 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ส่วน iOS 8 นั้น ได้นำ iOS 7 มาออกแบบใหม่ ให้ดูเรียบขึ้นกว่าเดิม



อย่างไรก็ดี ภาพด้านบนนั้น เป็นแค่คอนเซปท์เท่านั้น ไม่ใช่ตัวเครื่องจริงแต่อย่างใดนะครับ

ที่มา: cultofmac

8 สิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจาก Google ปี 2014


ตลอดปี 2013 Google ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ การให้บริการต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือระบบปฏิบัติการ Android ที่ยอดผู้ใช้ทะลุ 1พันล้านคนไปเรียบร้อย ฉะนั้นในปี 2014 ที่กำลังจะมาถึง เว็บไซต์ Pocket-lint จึงทำนายทายทักถึงสิ่งใหม่ๆ จาก Google ในปี 2014

1. Android TV



จากรายงานของเว็บไซต์ Gigagom เมื่อเดือนตุลาคม เปิดเผยว่า Google อาจยุติการใช้แบรนด์ Google TV และจะรีแบรนด์ไปเป็น Android TV แทน ซึ่งแพลตฟอร์มที่ใช้จะเป็นตัวเดียวกับบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อดึงดูดให้นักพัฒนาให้สามารถสร้างซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ในทุกอุปกรณ์ที่ เป็น Android  และในการเปิดตัวอาจเป็นงาน CES 2014 ต้นเดือนมกราคม หรือไม่ก็อาจเป็นงาน Google I/O ในเดือนพฤษภาคม

 2. Chromecast



แก็ดเจ็ตอันดับ 1 ของปี 2013 รูปร่างคล้ายแฟลชไดรฟ์ เพียงเสียบเข้ากับทีวี Chromecast จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับดึงคอนเทนต์จาก Youtube และ Google Play ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือภาพยนตร์ มาแสดงบนหน้าจอทีวีของคุณ แถมยังสามารถควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อีกด้วย ซึ่งในปี 2014 เราอาจจะได้เห็น Chromecast ขยายบริการออกไปในหลายๆประเทศนอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในอนาคตของ Chromecast ที่จะสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆได้เช่นกัน

 3. Nexus TV



อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวในครึ่งปีแรกของปี 2014 มีลักษณะเป็น set top box จะใช้งานได้เมื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเท่านั้น โดยตัวกล่องจะทำหน้าที่สตรีมคอนเทนต์จาก Netflix, Hulu, YouTube, ฯลฯ รวมถึงวีดีโอเกมต่างๆ ซึ่งสื่อในต่างประเทศมองว่า Nexus TV อาจจะมีราคาแพงอยู่พอสมควร

 4. Google Smartwatch



แม้จะมีการคาดการณ์ว่าปี 2014 จะเป็นอีกปีที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น แต่หลายบริษัทไอทีชั้นนำเริ่มกระโดดเข้าหาตลาดใหม่อย่าง Smartwatch บ้างแล้วซึ่ง Google ก็ไม่พลาดที่จะร่วมวงในครั้งนี้ด้วย โดยหลายเดือนที่ผ่านมามีการรายงานว่า Google กำลังอยู่ในระหว่างการผลิต Smartwatch ในชื่อ “Gem” รันระบบปฏิบัติการ Android KitKat เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Android ได้ด้วย Bluetooth 4.0 พร้อมแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด

 5. Chromebook



ในปี 2013 Google เปิดตัว Chromebook Pixel คอมพิวเตอร์โน๊ตบุคหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง รันด้วยระบบปฏิบัติการ Chrome OS สนับสนุนผู้ใช้ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก แถมยังได้ผู้ผลิตดัง ๆ หลายเจ้าในตลาดโน๊ตบุคไม่ว่าจะเป็น Samsung, Acer และ HP ต่างพากันกระโดดร่วมวงผลิตโน๊ตบุคพร้อมระบบปฏิบัติการ Chrome OS ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งในปี 2014 น่าติดตามว่า Chromebook จะมีทีเด็ดใดออกมาโชว์อีกบ้าง เพื่อเพิ่มยอดส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีอยู่เพียง 1%

 6. Google Glass รุ่นที่ 2 สำหรับคนทั่วไป



สำหรับปี 2013 อาจจะไม่มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นจาก Google Glass นอกเสียจากการเปิดให้นักพัฒนานำ Google Glass ไปทดสอบด้วยสนนราคา 1,500 เหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงให้กับคนทั่วไปในสหรัฐอเมริกาในปี 2014 ด้วยเป้าหมายที่จะวางขายด้วยราคา 200-600 เหรียญสหรัฐ ซึ่งไม่แน่ว่า Google Glass ที่จะวางขายจริงนั้นอาจเป็นรุ่นที่ 2 เลยก็ได้ โดยข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า Google ได้เพิ่มพัฒนาในส่วนของเลนส์และชุดอุปกรณ์หูฟัง รวมถึงซอฟต์แวร์ต่างๆ

 7. Nexus 10 รุ่นที่ 2



แม้จะมีข่าวถึงการเปิดตัวแท็บเล็ต Nexus 10 รุ่นที่ 2 ในปีนี้ แต่สุดท้ายก็คงต้องยกไปเป็นปี 2014 เสียแล้ว โดยผลิตภัณฑ์ที่ Google ร่วมมือกับ ASUS ใช้หน้าจอ 10 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600, หน่วยประมวลผล Snapdragon 800, แรม 3GB, กล้อง 8 ล้านพิกเซล, ความจุภายใน 32GB, แบตเตอรี่ 9,500 mAh

 8. ระบบการค้นหาด้วยเสียงหรือ Google Now ที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น



Google เคยกล่าวว่าในปี 2014 จะมุ่งเน้นการค้นหาข้อมูลด้วยเสียงให้ก้าวหน้ามากขึ้น และไม่เพียงแค่ดีขึ้นแต่จะต้องเป็นระบบที่เหนือกว่า Siri จาก iOS ซึ่งการพัฒนาที่สำคัญของ Google Now ที่จะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

สนับสนุนเนื้อหา: Arip

10 วิธียืดพลังงานแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คให้นานขึ้น


หลายคนคงประสบปัญหากับพลังงานแบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊คอยู่ได้ไม่นานเวลานำออกไปใช้ข้างนอก วันนี้เรามี 10 วิธีประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ให้ใช้ได้นานขึ้น และทำให้คุณไม่หงุดหงิดเวลาแบตเตอรี่หมดเร็วอีกด้วย



1. ลดความสว่างหน้าจอลง

วิธีที่ง่ายและได้ผลมากที่สุด ก็คือ การลดความสว่างของหน้าจอโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคุณสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการกดปุ่มควบคุมความสว่างบนคีย์บอร์ด หรือตั้งค่าใน Control Panel อย่างเช่น หน้าจอโน๊ตบุ๊คจะสลัวลงเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 2 นาที หรือหน้าจอดับไปเลย เมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 5 นาที เป็นต้น



2. งดการใช้ Background Slideshows บนหน้า Desktop

สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 7 นั้น จะมีลูกเล่นหลายๆ อย่างที่น่าสนใจให้เลือกใช้ หนึ่งในนั้นก็คือ ความสามารถในการ Rotate วอลเปเปอร์หน้า Desktop ซึ่งจะใช้พลังงานแบตเตอรี่ไปพอสมควร โดยคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยการเพิ่มระยะเวลาการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ให้มากขึ้น จากปกติที่ตั้งค่าไว้ที่ 30 นาที ก็อาจจะเป็น 1 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงแทน

3. ปิดระบบเชื่อมต่อ

ระบบเชื่อมต่อ ก็อย่างเช่น บลูทูธ, Wireless, Wi-Fi ถ้าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ ก็ปิด เพราะคงไม่มีใครใช้ทั้ง Wireless และ Wi-Fi ในเวลาเดียวกัน หรือไม่ก็ส่งข้อมูลผ่านทางบลูทูธตลอดเวลา



4. งดการเปิดหลายๆ โปรแกรม

พยายามเปิดเฉพาะโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น เพราะยิ่งเปิดโปรแกรมเยอะมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้พลังงานแบตเตอรี่มากขึ้นเท่านั้น

5. งดการใช้แบ็คกราวน์แอพพลิเคชั่น

ปกติแล้ว เวลาเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมา 1 ตัว มักจะมีแบ็คกราวน์แอพพลิเคชั่น run ตามมาอีกมากมาย ซึ่งจะทำให้พลังงานของแบตเตอรี่เหลือน้อยลง แบ็คกราวน์แอพพลิเคชั่น ได้แก่ ZumoDrive, SugarSync, PandoraOne, DropBox, OneNote Side Note

6. งดใช้การรับส่งอีเมลล์แบบอัตโนมัติใน Microsoft Outlook

โปรแกรม Microsoft Outlook จะตั้งค่าการอัพเดตข้อความใหม่ๆ ทุกๆ 30 นาที เมื่อใดก็ตามที่ Microsoft Outlook อัพเดต ก็จะใช้พลังงานของแบตเตอรี่ไปเช่นกัน การตั้งค่าให้ Microsoft Outlook อัพเดตช้าลงจะช่วยประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ได้



7. Defragment ฮาร์ดดิสก์บ้าง

การ Defragment คือการสแกนไฟล์ทั้งหมดและเชื่อมไฟล์ที่แยกกันอยู่ให้ติดต่อกัน ทำให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานได้เร็วขึ้น ฉะนั้นควรตั้งตารางการ Defragment อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง



8. นำแผ่นซีดี / ดีวีดี ออกจากไดร์ฟ

ทุกครั้งที่เราเปิดคอมพิวเตอร์ ถ้าหากมีแผ่นซีดี / ดีวีดี อยู่ในไดร์ฟ ก็จะหมุนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการหมุนของแผ่นซีดีนั้นจะเปลืองพลังงานแบตเตอรี่มาก ฉะนั้น อย่าลืมนำแผ่นซีดี / ดีวีดี ออกทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน

9. ใช้การ Hibernate แทน Sleep

บ่อยครั้งที่หลายคนปิดโน๊ตบุ๊คในโหมด Sleep เพราะต้องการคงโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ ซึ่งโหมด Sleep นั้นก็ยังใช้พลังงานแบตเตอรี่ ถึงแม้ว่าจะใช้น้อยก็ตาม สำหรับโหมด Hibernate นั้นจะคล้ายๆ กับโหมด Sleep แต่จะไม่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ อีกทั้งตอนเปิดเครื่องก็ยังสามารถใช้โปรแกรมที่เปิดอยู่แล้วนั้นได้เลยทันที

10. ถอดแบตเตอรี่ออกถ้าไม่ได้ใช้

ถ้าหากคุณต้องเสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊คทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ ควรถอดแบตเตอรี่ออกและเก็บไว้ในที่แห้ง และอย่าพยายามปล่อยให้แบตเตอรี่หมดก่อนที่จะนำมาชาร์ต วิธีนี้จะเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานๆ

แปลและเรียบเรียงโดย : NF Staffs

ที่มา : laptoplogic

กสทช. สั่งค่ายมือถือห้ามสัญญาณขัดข้องวันที่ 13 ม.ค.นี้


กสทช. สั่งค่ายมือถือห้ามสัญญาณขัดข้องวันที่ 13 ม.ค.นี้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าวันที่ 13 มกราคมที่จะถึงนี้ จะมีการชุมนุมทางการเมืองโดยมีการปิดการจราจรเข้าออกกรุงเทพมหานคร การสัญจรเดินทางอาจไม่ได้รับความสะดวก การติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงมีความสำคัญมาก สำนักงาน กสทช. จึงได้สั่งการไปยังผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้เพิ่มสัญญาณในพื้นที่ที่มีการประกาศแจ้งว่าจะมีการชุมนุมและเขตกรุงเทพมหานคร และให้เตรียมรถโมบายเคลื่อนที่เพื่อเตรียมเพิ่มช่องสัญญาณ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อรองรับการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งการโทรและการใช้งานดาต้าที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกันนี้สำนักงาน กสทช. จะได้ส่งรถตรวจสอบคุณภาพสัญญาบริการออกวิ่งทำการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการชุมนุม และเขตกรุงเทพมหานครเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพบริการ หากพื้นที่ใดมีความขัดข้องของสัญญาณก็จะสามารถแจ้งผู้ประกอบการให้ดำเนินการแก้ไขได้โดยทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการที่มีประชาชนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมกันเป็นจำนวนมากจะส่งผลต่อคุณภาพสัญญาณ การตรวจสอบคุณภาพสัญญาณจึงเป็นมาตรการหนึ่งในการคุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพจากผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่



ภาพประกอบข่าว


นายฐากร กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้แจ้งไปยังบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้รีบแจ้งสำนักงานทันทีหากเกิดกรณีมีผู้ดำเนินการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม อันจะส่งผลต่อการแพร่ภาพเพื่อให้บริการออกอากาศและแพร่ภาพแก่โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เพื่อสำนักงาน กสทช. จะได้รีบดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำการรบกวน ทั้งนี้ หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ สำนักงาน กสทช. ยังได้สั่งการศูนย์สายลมให้แจ้งขอความร่วมมือไปยังสมาคม และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นให้เตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยคามสะดวกให้กับประชาชนในการติดต่อสื่อสารกันได้

กสทช.เผยมือถือ-แท็บเล็ตรุ่นยอดนิยมในประเทศไทยประจำปี 2556


จากสถิติของสำนักงาน กสทช. พบว่าตั้งแต่ปี 52 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีการนำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็บเล็ตรวม 3,880 รุ่น รวม 92,729,417 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.5 แสนล้านบาท โดยในปี 55 มีการนำเข้ามากที่สุด จำนวน 660 รุ่น23,053,090 เครื่อง รองลงมาคือปี 54 นำเข้า 666 รุ่นเป็นจำนวน 22,786,286 เครื่อง ตามด้วยปี 53 นำเข้า 965 รุ่น เป็นจำนวน 19,991,952 เครื่อง ปี 52 นำเข้า 1,476 รุ่น เป็นจำนวน 16,230,612 เครื่อง และปี 56 นำเข้า113 รุ่น เป็นจำนวน 10,667,477 เครื่อง



กสทช. เผยในปี 2556 มีมือถือ-แท็บเล็ตนำเข้าประเทศไทย 113 รุ่น เป็นจำนวน 10,667,477 เครื่อง สำหรับรุ่นยอดนิยมนั้นมีดังต่อไปนี้

Apple

iPhone 5s
iPhone 5c
iPadAir
iPad mini
Samsung

Galaxy S4
Galaxy Grand 2
Galaxy Note 3
Galaxy Core
Nokia

Lumia 520
Lumia 625
Lumia 1520
Lumia 2520
i-mobile

i-mobile Hitz 10-17
i-mobile i-Note 3
i-mobile IQ 9
สำหรับรุ่นนิยมในปี 2552 ถึงปี 2555 มีดังต่อไปนี้

ปี 2552 ได้แก่ iPhone 3G, Samsung Spica i5700, Samsung Candy, Samsung Star, Nokia N97 mini, Nokia 5230, Nokia 5530, Nokia XpressMusic, i-mobile IE3250, i-mobile IE5510, i-mobile IE6530
ปี 2553 ได้แก่ iPhone 4, iPad, Samsung Galaxy Tab, Samsung Galaxy S, Galaxy Nexus, Samsung Galaxy Wave, Samsung C3
ปี 2554 ได้แก่ iPhone 4s, iPad 2, Samsung Galaxy Y, Samsung Galaxy S2,Samsung Galaxy Note 2, Samsung Galaxy Tab, Nokia N9, Nokia Lumia 800, Nokia Asha,Nokia 500, i-mobile i-Note, i-mobile CM
ปี 2555 iPhone 5, iPad 4, iPad Mini,Samsung Galaxy S Duos, Samsung Galaxy S3, Samsung Galaxy S3 mini, SamsungGalaxy Grand, Samsung Galaxy Ace, Nokia Lumia, i-mobile idea 1
ที่มา - dailynews

สนับสนุนเนื้อหา: www.flashfly.net

อยากรู้ไหม? ผู้ใช้ iPhone 5S บ่นเรื่องอะไร


เว็บไซต์ Fixya ได้ทำผลการสำรวจ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ 4 รุ่นหลัก ได้แก่ Samsung Galaxy S4, iPhone 5S, Motorola Moto X และ HTC One เกี่ยวกับปัญหาด้านการใช้งานต่างๆ ที่ผู้ใช้ต้องพบเจอมากที่สุด



สรุปได้ดังนี้ครับ



ผู้ใช้ Samsung Galaxy S4 กว่า 25% บ่นถึงปัญหาเรื่องตัวเครื่องร้อน ขณะเล่นเกม และเปิดเว็บไซต์ในเวลาเดียวกัน ส่วนปัญหาอื่นๆ ก็อย่างเช่น แบตเตอรี่หมดเร็วเกินไป ต้องใช้เวลาชาร์จบ่อย, การแสดงผลของหน้าจอ สลัวกว่ามือถือที่ใช้กระจกหน้าจอแบบ Glass ซึ่งมีผลต่อการอ่านข้อความบนมือถือ เป็นต้น



ถัดมาเป็น Motorola Moto X ครับ โดยผู้ใช้ 30% ไม่ชอบเรื่องความจุในตัวเครื่องที่มีให้น้อยเกินไป จริงอยู่ที่คุณสมบัติของ Motorola Moto X ความจุของตัวเครื่องอยู่ที่ 16 GB แต่เหลือพื้นที่ใช้งานจริงแค่ 12 GB นอกจากนี้ Moto X ยังไม่รองรับ microSD card ส่วนอีก 20% ไม่ชอบเรื่องความละเอียดของหน้าจอ ที่ให้มาเพียง 720 x 1280 พิกเซลเท่านั้น



มาถึงสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง iPhone 5S กันบ้างครับ โดยผู้ใช้ 25% กั่งวลเรื่องความปลอดภัยของ Touch ID ระบบสแกนลายนิ้วมือ ส่วนอีก 25% ไม่ชอบเรื่องแบตฯ ไม่อึด และอีก 15% บ่นเรื่องแอพฯ ค้างบ่อย



สุดท้าย เป็น HTC One กันบ้าง โดยผู้ใช้กว่า 30% บ่นเรื่องแบตเตอรี่ครับ ทั้งแบตเตอรี่ไม่อึด ชาร์จช้า และเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่สำรองไม่ได้ ส่วนอีก 20% บ่นเรื่องปัญหาด้านการใช้งานต่างๆ เช่น มีเสียงซ่าขณะใช้งานโทรศัพท์ หรือฟังเพลง และอีก 20% ไม่ชอบเรื่องกล้อง UltraPixel ครับ

 รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com

สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com

Canon, Nikon และ Sony ที่อยู่รอดจากการตีตลาดของสมาร์ทโฟน


นักวิเคราะห์คาด ตลาดกล้องจะเหลือ Canon, Nikon และ Sony ที่อยู่รอดจากการตีตลาดของสมาร์ทโฟน

จากรายงานของ Reuters กล่าวไว้ว่า ตลาดกล้องนั้นเป็นตลาดที่นอกจากจะแข่งกันดุเดือดแล้ว ยังโดนตีตลาดจากตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนที่ถ่ายรูปได้ดีมากอีก โดยตอนนี้ถ้าแบ่งตลาดกล้องจะแบ่งได้เป็น 2 ส่วนคือ



กล้องระดับสูง มี Canon, Nikon และ Sony ที่ครองตลาด
กล้องระดับล่าง มีสมาร์ทโฟนทั้งหลายครองตลาด
ส่วนตลาดระดับกลางนั้น "ไม่มี"

จากรายงานกล่าวว่า Panasonic, Fujifilm และ Olympus นั้นสูญเสียรายได้จากการขายกล้องไปเยอะมาก สำหรับกล้อง mirrorless ยังพอจะทรงตัวได้อยู่ แต่กล้อง compact เริ่มเลือนหายไป

Yu Yoshida นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse กล่าวว่า ในระยะยาว ตลาดกล้องดิจิทัลจะกลายเป็นตลาดที่มีผู้ขายเพียง 2-3 ราย คือ Canon, Nikon และ Sony ที่อยู่รอด เพราะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและต่อสู้กับสงครามราคาได้

ตัวเลขบางส่วนของตลาดกล้อง

ตลาดกล้องทั่วโลกในปีนี้ มียอดขาย 59 ล้านหน่วยตกลง 40%
กล้อง Panasonic ยอดขายตกลง 40% ในช่วงเวลาแค่เดือนเมษายน - กันยายน ปี 2013
กล้อง mirrorless ยังพอไปได้ดีในตลาดญี่ปุ่น ที่มีส่วนแบ่งถึง 36% ของกล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ แต่ในตลาดอเมริกาและยุโรปกลับมีส่วนแบ่งเพียง 10.5% และ 11.2% ตามลำดับ (คงเป็นเหตุผลที่ Canon เลือกเปิดตัว EOS M2 ที่ญี่ปุ่นก่อน - ข่าวเก่า)
กล้อง mirrorless ในอเมริกามียอดขายตกลง 20% ในช่วงเทศกาลซื้อของวันหยุด ขณะที่ DSLR เพิ่มขึ้น 1%
Nikon ยอมรับ สมาร์ทโฟนกระทบยอดขายกล้องคอมแพค - ข่าวเก่า
นักวิเคราะห์ยังกล่าวว่า Canon และ Nikon จะยังอยู่บนตลาดกล้องระดับสูง ซึ่งกล้องยุคใหม่นอกจากจะได้ภาพที่มีคุณภาพดีแล้วยังต้องมีความสามารถในการ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อแบ่งปันรูปด้วย

ที่มา - Chicago Tribune Business ผ่าน Petapixel