วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

10 อันดับ โดเมนเนม ทำไมถึงแพงช็อคโลกแบบนี้ มีใครสนไหมครับ

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

ซื้อ Samsung Galaxy NotePro หรือเก็บตังค์รอ Apple iPad Pro ดีกว่ากัน

ล่าสุดก็ได้มีการเปิดสเปคจริงๆและราคาจริงๆของ Galaxy NotePro จาก Samsung กันมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาค่อนข้างสูงทีเดียว ถึง 29,900 บาทจากศูนย์ไทย แต่ Galaxy NotePro ในต่างประเทศนั้นไปตกอยู่ที่ราง 749 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 24,500 บาท ที่มีราคาต่างกันถึง 5,000 บาทกันเลยทีเดียว แน่นอนนอนเมื่อเทียบกับสเปคของ Galaxy Note Pro ที่จะได้รับกลับมาก็”อาจจะ”สมกับราคา



 แต่คำถามคือคุ้มไหมที่จะซื้อ Galaxy NotePro ตอนนี้? หรือควรที่จะเก็บตังรอไปก่อน? หรือควรจะรอ iPad Pro จาก Apple ดี? ซึ่งนั่นก็นับเป็นโจทย์ใหญ่โจทย์นึงที่ NBS เชื่อว่าเพื่อนๆสมาชิกและนักอ่านหลายๆท่านคงอยากจะทราบคำตอบกันเป็นแน่ ในวันนี้ NBS จึงถือโอกาศเขียนบทความ [วิเคราะห์] ซื้อ Samsung Galaxy NotePro หรือเก็บตังรอ Apple iPad Pro ดีกว่ากัน!!!! เพื่อเป็นการวิเคราะห์คร่าวๆเพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสิน ใจของทุกท่านครับ



Galaxy NotePro สเปค
ก่อนอื่นมาดูสเปคของทาง Galaxy NotePro จาก Samsung กันก่อน สำหรับ Galaxy NotePro ถูกวางเป็นแท็บเล็ตเรือธงรุ่นสูงสุดในปี 2014 ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพโดยเฉพาะ มาพร้อมฟีเจอร์และสเปคที่สุดแสนอลังการงานสร้างมากๆดังนี้

จอ Super clear LCD ขนาด 12.2″ ความละเอียด WQXGA 2,560 x 1,600 พิกเซล (16:10)
แยกรุ่นเป็นรุ่น Wi-Fi/3G ใช้ Exynos 5 Octa Core (1.9GHz+1.3GHz) และรุ่น LTE ใช้ Snapdragon 800 2.3GHz Quad Core
แรม 3GB, ตัวเก็บข้อมูล 32/64GB, สามารถเพิ่มเติม microSD
กล้องหลัก 8MP LED Flash, Zero Shutter Lag, กล้องหน้า 2MP
มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat
แบตเตอรี่ 9,500 mAh
น้ำหนัก 750 กรัม (Wifi) / 753 กรัม (3G/LTE)
ปากกา S Pen และแอพฯสำหรับปากกาอย่าง S Note, S Planner, Air Command ครบชุด
ซอฟต์แวร์ชุดมาตรฐาน เช่น TouchWiz, KNOX, ChatON, Group Play
สนนราคา 29,900 บาทในไทย


iPad Pro สเปค
หันมามอง iPad Pro จาก Apple กันบ้าง ที่ ณ ตอนนี้ยังเป็นข่าวลืออยู่ แต่ผู้เขียนคาดว่าน่าจะมาจริงๆอย่างแน่นอน และจากที่รวบรวมข้อมูลจากหลายๆแหล่งข่าวแล้วสรุปได้ว่า เจ้า iPad Pro จาก Apple ก็น่าจะเป็นแท็บเล็ตที่อยู่ในระดับเดียวกันกับ Galaxy Note Pro อย่างแน่นอน และน่าจะวางขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2014 หรืออย่างช้าที่สุดก็น่าจะเป็นในช่วงปลายปี 2014 ซึ่งอาจจะมีสเปคดังนี้

หน้าจอ 12.9 นิ้ว ความละเอียด 4K 3840 x 2160 พิกเซล และ 2K 2560 × 1440 พิกเซล
มาพร้อมเทคโนโลยี EYE ID แบบใหม่แทน Touch ID นำเทคโนโลยีการสแกนม่านตาของ iPad Pro ต่อยอดโดยนำมาใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหวของนัยน์ตา ใช้เลื่อนหน้าเว็บขึ้นลง หรือหยุดเล่นวิดีโออัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ละสายตาจากหน้าจอแทนการใช้งานแบบ สัมผัส
ชิปประมวลผล Apple A8
อาจมาพร้อมแรมขนาด 2GB
มีตัวเก็บข้อมูลให้เลือกที่ 64GB, 128GB และ 256GB
รองรับการเชื่อมต่อไร้สายครบครัน
อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 17Watt
น้ำหนักตัว iPad Pro ประมาณ 600 – 800 กรัม
อาจจะมาพร้อมปากกาสไตลัสที่ออกแบบโดย Apple เอง
รองรับการต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
อาจะใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 8
ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากสเปคแล้วจะเห็นได้ว่าแท็บเล็ตทั้งสองตัวมีความ ใกล้เคียงกันมากทีเดียว ทั้งในเรื่องของสเปคต่างๆ และฟีเจอร์ที่เมื่อมองโดยรวมๆแล้วจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เมื่อมองให้ลึกลงไปอีกดูเหมือน Apple จะมีภาษีที่ดีกว่า Samsung อยุ่บ้างเล็กน้อย เช่นเทคโนโลยี EYE ID ที่ดูมีอนาคต รวมไปถึงจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่กว่าและความละเอียดสูงกว่ามากถึงระดับ 4K นั่นเอง โดยผมจะเสนอสามแนวทางเพื่อประกอบการตัดสินใจดังนี้


ทางเลือกที่ 1.ซื้อ Samsung Galaxy NotePro ไปเลย
สำหรับทางเลือกแรกขอใช้คำจำกัดความว่า”ซื้อก่อนใช้ก่อนครับ”แน่นอนว่า iPad Pro นั้นกว่ามะมาก็อาจจะเป็นครึ่งหลัง หรือปลายปีนู้น ซึ่งก็กินระยะเวลาค่อนข้างนานมากสำหรับผู้ที่อยากจะซื้อมาใช้ก่อนและเตรียม เงินซื้อเครื่องเอาไว้แล้ว โดย Galaxy NotePro เหมาะสมกับผู้ใช้งานมืออาชีพที่อยากใช้งานแบบด่วนๆและถนัดในการใช้ งาน Android เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ทางเลือกที่ 2.เก็บตังรอซื้อ iPad Pro
สำหรับท่านที่เป็นสาวก Apple หรือชอบใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ผมขอแนะนำให้รอดีกว่าครับ เพราะนอกจากที่จะได้เครื่องที่ถูกใจแล้ว ยังมีเวลาเหลือพอที่จะเก็บเงินได้อีกด้วย ที่สำคัญถ้าฟีเจอร์ที่ข่าวลือว่าไว้ตรงกับความเป็นจริง iPad Pro ก็จะเป็นสุดยอดแท็บเล็ตสำหรับอนาคตเลยละครับ

ทางเลือกที่ 3.ไม่ซื้อ!!!!!!
ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note Pro และ Apple iPad Pro จะเป็นแท็บเล็ตที่น่าสนใจก็ตามที แต่ด้วยราคาเกือบ 30,000 บาท นั้นเรียกได้ว่าซื้อ Ultrabook , โน้ตบุ๊ค หรือแม้แต่ Apple Mac Air ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าได้ไม่ยากเลย สำหรับท่านที่ต้องการนำมาใช้งานจริงๆ โน้ตบุ๊ค และ Ultrabook ดูจะมีภาษีดีกว่า ยกเว้นแต่ด้านการพกพาที่ Samsung Galaxy Note Pro และ Apple iPad Pro จะสามารถพกพาได้สะดวกกว่า แต่การใช้งานผมยืนยันว่าโน้ตบุ๊ค และ Ultrabook ใช้ได้ดีกว่าแน่นอน

ก็จบลงไปแล้วนะครับกับสามทางเลือกที่เป็นการวิเคราะห์เบื้องต้นคร่าวๆ ที่ก็หวังว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อ หรือเกร็ดเล็กๆให้ทุกๆท่านได้ลองอ่านกัน ซึ่งอย่างไรก็ดีสุดท้ายขอฝากไว้ว่าสเปคของ iPad Pro ยังเป็นแค่การคาดเดา และยังเป็นข่าวลือที่มีโอกาศขึ้นจริงพอสมควร แต่ทาง Apple ยังไม่ได้ยืนยันถึงการมีตัวตนของ Apple iPad Pro แต่อย่างใด ซึ่งต้องตามดูกันต่อไปและใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจประกอบด้วยครับ

Truemove H จัดโปรลดราคา iPad mini 50% เหลือเพียง 7,200 บาท วันนี้ถึง 28 ก.พ.นี้เท่านั้น

Truemove H จัดโปร Festive Sale ลดราคาค่าเครื่อง 50% สำหรับ iPad mini จากราคาปกติ 14,400 บาท เหลือเพียง 7,200 บาท เมื่อสมัครพร้อมแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้นที่ 899 บาทต่อเดือนเป็นระยะเวลาสัญญานาน 12 เดือน โดยโปรโมชั่นนี้จะมีไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นี้เท่านั้น ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


Smartphone ตัวไหนดี เลือกยังไงก็ไม่ได้สักที?

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหามือถือฉลาดๆไว้ใช้ เชื่อเถอะว่าข้อมูลมันจะหาง่ายซะยิ่งกว่าหาถังขยะเทศบาล แต่ปัญหาต่อมาที่คุณจะพบคือ เฮ้ย!!แล้วรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี? อย่างที่บอกไป Smartphone ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบัน สเปคหรือประสิทธิภาพของเครื่องไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะรุ่นเรือธง หรือ Flagship ซึ่งถือเป็นรุ่นเด่นที่แต่ละค่ายขยันปล่อยกันออกมาดูดตังค์ผู้บริโภค



ที่มาของภาพประกอบ: www.theverge.com

ดังนั้นตอนแรกของไดอารี่เราจะมาเริ่มกันด้วย วิธีการเลือกมือถือยังไงให้โดนใจ ประหยัดเงิน และที่สำคัญตรงกับความต้องการของเราจริงๆ

ต้องบอกก่อนว่าบทความนี้จะไม่มีการพูดถึงเทคนิคล้ำลึกใดๆทั้งสิ้น เป็นเรื่องจริงจากประสบการณ์การสรรหามือถือของผู้เขียนล้วนๆ

ก่อนอื่นเลยการที่เราจะหามือถือใหม่มาเปลี่ยนนั้น เราควรย้อนกลับไปดูเครื่องเก่าที่ใช้อยู่สักนิด ที่ให้กลับไปดูนั้นไม่ใช้อะไร แต่มือถือที่เราใช้อยู่นั้นแหละจะสามารถนำมาเป็นตัวช่วยให้เราเลือกเครื่อง ใหม่ได้ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าเราสามารถทนใช้มันมาได้ตั้งนาน นั้นแสดงว่ามันต้องตอบโจทย์การใช้งานของเราในระดับหนึ่ง และนี่แหละตัวช่วยสำคัญในการเลือกมือถือเครื่องใหม่

สำหรับกรณีศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ จะขอยกตัวอย่างเป็นของตัวผู้เขียนเอง

มือถือตั้งต้น: Galaxy Note 2

เรือธงอันน่าภูมิใจเมื่อสมัยย้อนกลับไปปีกว่าๆ ขั้นแรกเราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุใดที่ทำให้เราอยากเปลี่ยน?

ต้นเหตุ: หน้าจอไม่สามารถแสดงผลในระดับ Full HD ได้ และขนาดที่ใหญ่เกินไป (ใช้มานานเพิ่งมารู้สึก TT)

หลังจากที่เรารู้สาเหตุของการอาการอยากเปลี่ยนแล้ว คราวนี้ก็ต้องถึงเวลาในการหาตัวเลือกที่เข้าตากรรมการมาสัก 2-3 ยี่ห้อ ทั้งนี้เพื่อใช้สำหรับการเปรียบเทียบเรื่องราคา และการทำงาน

ผู้เข้าชิง: LG G2, Nexus 5, HTC One

เมื่อเราได้ผู้ท้าชิงมาแล้วก็มาเริ่มดูกันเลยว่าตัวไหนที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเราบ้าง

1. ขนาดที่ต้องพกพาได้ง่ายขึ้น

ข้อนี้ผ่านทั้งสามตัว G2 มากับขนาดจอ 5.2 นิ้ว HTC One 4.7 และ Nexus 5 ที่ 4.95-5 นิ้ว

2. ประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องไม่ด้อยลงกว่าเดิม เพราะเกมคือจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง ฮูเร่

ส่วนนี้ก็ผ่านทั้งสามตัวเช่นกัน กับ CPU Quad-core Snapdragon ของ Qualcomm

3. หน้าจอล่ะ อันนี้ประเด็นสำคัญเลย

ข้อนี้ก็ผ่านหมดอีกเช่นกัน เพราะหน้าจอมาแบบ Full HD กันทั้งสามตัว

จะเห็นว่ามือถือที่เรามักคัดมาเป็นตัวเลือก ส่วนใหญ่จะมีสเปคที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกคือ อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆและอะไรคือสิ่งที่เราแค่อยากมีเผื่อเอาไว้?

ข้อแรกเลยผู้เขียนเป็นคนชอบดูหนัง การโหลดหนังลงเมมเก็บไว้ดูในโทรศัพท์คือสิ่งจำเป็นในชีวิต และเมมในตัวเครื่องคงไม่มากพอจะอำนวยให้ลงหนังได้มากมายเท่าไหร่ สิ่งต่อมาที่จำเป็นคือ Micro SD จากข้อนี้ผู้ท้าท้าชิงจะถูกตัดออกไปถึงสอง คือ Nexus 5 และ HTC One

แต่แค่ปัจจัยเดียวคงยังไม่สามารถจะบอกได้ว่ามือถือเครื่องที่เหลืออยู่จะ เป็นมือถือสำหรับเราจริงๆ แล้วปัจจัยอะไรล่ะที่จะมาเป็นตัวช่วย?

บริการหลังการขาย คืออีกหนึ่งเรื่องที่เราควรต้องนึกถึง ในทีนี้เราคงไม่ลงรายละเอียดมากนัก แต่บอกได้แค่ว่า แบนรด์ที่มีตัวอักษรสามตัว อาจจะมีสาขาในไทยจริงแต่ศูนย์ที่มีอย่างจำกัด คงพอเดาได้ว่าเราจะได้รับบริการที่ความเร็วระดับใด?

การอัพเดตซอฟท์แวร์ ข้อนี้คำตอบคงไม่ต้องไปหาไกล Nexus 5 มาวินแบบไม่มีใครเบียด แต่กับเรือธงอีกสองตัวก็คงไม่ถูกลอยแพง่ายๆ เหมือนกับ Note 2 ที่ถึงจะยังไม่ได้กิน Kitkat แต่ 4.3 ก็ยังมีมาให้ได้ใช้ หากคุณไม่ใช่คนที่ปรับแต่งนู้นนี่นั้นในโทรศัพท์หรือต้องอัพเดตเพื่อใช้ฟี เจอร์ใหม่ ข้อนี้คงไม่ใช่ประเด็นอะไร

และสุดท้ายที่จะเป็นตัวตัดสินนั้นคือ ราคา ข้อนี้จะตอบได้เลยว่าสิ่งที่คุณได้มากับเงินที่เสียไปมันคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งผู้ท้าชิงสามตัวบนแม้จะมีสเปคไล่เลี่ยกัน แต่ราคาก็ยังมีช่องว่างที่ต่างกันอยู่

เท่านี้การเลือกมือถือที่เหมาะกับตัวเราจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากมากมาย อะไร การยอมตัดสเปคบางอย่างที่เรา ‘คิด’ เอาเองว่าต้องมีเผื่อไว้ใช้ แล้วจ่ายเงินน้อยลงเพื่อรุ่นที่ตอบโจทย์เราจริงๆ ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า

สนับสนุนเนื้อหา: Arip

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

LINE for iOS อัพเดทใหม่ มีร้านขาย ธีม (Theme) แล้ว

 ล่าสุด LINE for iOS ปล่อยอัพเดทเวอร์ชัน 4.0 เพิ่มร้านขายธีมครับ จากเดิมที่มี ธีม อยู่แค่ 2 แบบ นั่นก็คือ Brown และ Cony ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี และได้เพิ่ม 2 ธีมใหม่ ได้แก่ Sally ธีมเป็ดสีเหลือง และ Leonard ธีมกบสีเขียว สามารถซื้อมาใช้กันได้ ในราคา $2.99



นอกจากร้านขายธีมแล้ว LINE for iOS เวอร์ชัน 4.0 ยังมีของเล่นใหม่ ดังนี้ครับ

- ข้อความแชท หรือรูปภาพ สามารถลบ, ส่งต่อ หรือเซฟเก็บไว้ยัง Notes ได้
- สามารถส่งรูปภาพได้สูงสุด 20 รูปในครั้งเดียว
- เพิ่มเสียงแจ้งเตือน 2 เสียงใหม่
- แก้บั๊ก และปรับปรุงระบบเสียงของ voice call

Samsung Galaxy S5 เปิดตัว 24 กุมภาพันธ์นี้ กับสเปคหลุดล่าสุด มาพร้อม Reach ID เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และปุ่ม Home


ดูเหมือนว่า สมาร์ทโฟนเรือธง ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy S5 (SV) ที่มีข่าวแว่วๆ มาว่า จะเปิดตัวในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ ในงาน Samsung UNPACKED 2014 Episode 1 นั่นเอง แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า Samsung Galaxy S5 จะเปิดตัวในงานนี้หรือไม่ แต่กว่า 90% เชื่อว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ เราคงได้เห็นตัวเป็นๆ ของ Samsung Galaxy S5 กันแล้ว และสิ่งที่หลายๆ คนให้ความสนใจกันมากที่สุด ก็คือ สเปค Samsung Galaxy S5 ที่คาดกันว่า น่าจะมาพร้อมกับ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แบบเดียวกับ iPhone 5S นั่นเอง

สำหรับสเปคอย่างไม่เป็นทางการของ Samsung Galaxy S5 มีดังนี้

- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.2 นิ้ว แบบ Ultra Grand AMOLED display ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล
- ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa
- RAM 3 GB
- ชิปประมวลผลเป็นแบบ 64-bit และ 16-cores
- รัน Android 4.4 KitKat
- TouchWiz แบบใหม่
- Reach ID เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Home และบนหน้าจอ

ไม่เพียงเท่านั้น จากคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ ยังเผยให้เห็นการปลดล็อคหน้าจอแบบใหม่ กับการปลดล็อคด้วยเสียง เพียงแค่พูดว่า OK Galaxy, unlock my phone ก็สามารถปลดล็อคหน้าจอได้เช่นกัน ผ่านทาง S Voice ซึ่ง Samsung Galaxy S5 จะเปิดตัวในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ตามข่าวหรือไม่ ติดตามกันได้ในงาน Samsung UNPACKED 2014 Episode 1

Apple ออกอัพเดท iOS 7.1 Beta 5 สำหรับนักพัฒนา ปรับคีย์บอร์ดและเสียง Siri

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 แอปเปิลได้ปล่อยอัพเดท iOS 7.1 Beta 4  ให้กับนักพัฒนาได้ทดสอบก่อนปล่อยเวอร์ชั่นเต็มให้กับผู้ใช้งานทั่วไป โดยในเวอร์ชั่นนี้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ความลื่นไหลในการใช้งานดีกว่ารุ่นก่อน ๆ

ล่าสุด วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2557) แอปเปิลออกอัพเดท iOS 7.1 Beta 5 ให้กับนักพัฒนาได้อัพเดทและทดสอบอีกกันแล้ว โดย iOS 7.1 Beta 5 ถืออีกครั้งที่เป็นการอัพเดทครั้งสำคัญหลังจากปล่อย iOS 7 ให้ผู้ใช้งานทั่วโลกอัพเดทหลังจากเปิดตัว iPhone 5s และ iPhone 5c ไปแล้ว สำหรับ iOS 7.1 Beta 5 เวอร์ชั่นนี้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ความลื่นไหลในการใช้งานดีกว่าเดิม รวมถึงปรับเปลี่ยนดีไซน์บางส่วนใหม่อีกเล็กน้อย สามารถดูสิ่งที่เปลี่ยนแปลงใหม่ใน iOS 7.1 Beta 5 ได้จากวิดีโอด้านล่างเลยครับ



iOS 7.1 Beta 5 มีอะไรใหม่ ?
ปรับสัญลักษณ์ปุ่ม Shift คีย์บอร์ดภาษาอังกฤษใหม่ เมื่อพิมพ์ตัวพิมพ์ใหญ่
เพิ่มความคมชัดและความเป็นธรรมชาติของเสียง Siri ได้แก่ English (Australia), English (United Kingdom), Japanese และ Chinese (Mandarin – China)

OPPO R1 กับกล้องที่พร้อมถ่ายได้ทุกสภาวะแสง


  ยุคนี้ผู้คนส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพเป็นอุปกรณ์หลักในการถ่ายภาพ แต่ด้วยความเป็นสมาร์ทโฟนทำให้มีข้อจำกัดบ้างเวลาจะใช้งานการถ่ายภาพในสภาวะแสงต่าง ๆ หรือหากจะใช้สมาร์ทโฟนที่กล้องยอดเยี่ยมบางครั้งก็มีราคาสูงเกินไป ทางเรา OPPO เล็งเห็นจุดนี้จึงออกตัว R1 สมาร์ทโฟนรูปทรงงดงาม และถ่ายภาพได้ทุกสภาวะแสง

         OPPO R1 มาพร้อมกล้องหลัง 8MP จับความละเอียดภาพด้วยเซนเซอร์ IMX179 ขนาด 1/3.2 นิ้ว 8 ล้านพิกเซล พร้อมชุดเลนส์ 5 ชิ้น และค่ารูรับแสง F2.0 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับแสงและให้ภาพที่มีความคมชัดมากเป็นพิเศษเหมาะสำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน มี Blue glass filter ช่วยตัดปริมาณแสงอินฟราเรดได้มากถึง 90% ลดปัญหาภาพถ่ายตาแดง สีเพี้ยน แสงมืด แสงฟุ้งจ้า ภาพเบลอต่าง ๆ ทำให้การถ่ายภาพไม่จำกัดอยู่แค่เวลากลางวัน

         ส่วนกล้องหน้าของ OPPO R1 ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมพร้อมกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อม Beauty Plus ที่ถ่ายภาพหน้าของเราได้สวยงาม ครบชัดมี Wide Angle เก็บภาพมุมกว้างช่วยเวลาที่เราต้องเบียดกับเพื่อนๆ กลายคนแต่ก็ยังเก็บได้หมด มีค่ารับแสง F 2.0 และ Blue Glass Filter ทำให้ถึงเป็นกล้องหน้าก็ถ่ายภาพกลางคืนได้ยอดเยี่ยม

OPPO R1

         นี่คือความสามารถส่วนหนึ่งของการถ่ายภาพด้วย OPPO R1 ที่ถ่ายภาพได้ทุกสภาวะแสงพร้อมด้วยความสามารถมากมายอย่าง หน่วยประมวลผล Quad Core ตัวเครื่องกระจกสุดหรูหรา และอื่น ๆ มากมายทั้งหมดนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 12,990 บาท ได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป.

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

AIS เปิดขาย iPhone 4S ในราคาสิทธิพิเศษราคาเบากว่าใครเพียง 9,500 บ.


AIS เปิดขาย iPhone 4S ในราคาสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า AIS 3G 2100 รายเดือน  ราคาเบากว่าใครเพียง 9,500 บ. (จากปกติ 14,900) กติกาเช่นเดิมครับสมัครแพ็ก iPhone XL 670 นาน 12 เดือน
และชำระค่าบริการล่วงหน้า 5 เดือน พร้อม ส่งสินค้าถึงบ้าน ฟรี!

หมายเหตุ:
- ไม่สามารถใช้สิทธิร่วมกับโครงการผ่อน 0% ได้
- สินค้าซื้อแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้
(ยกเว้น สินค้าชำรุดระหว่างการจัดส่ง  สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ภายใน 7 วัน นับจากวันที่รับสินค้า)




เงื่อนไขการรับสิทธ์ในโครงการ
1. บริษัทฯ จะสมัครแพ็กเกจที่คุณเลือกให้ภายใน 3 วันทำการ หลังจากการสั่งซื้อสำเร็จ โดยแพ็กเกจจะเริ่มใช้งานได้ในรอบบิลถัดไป นับจากวันที่ทำการสมัครแพ็กเกจ (กรุณารอรับ SMS ยืนยันวันเริ่มใช้งานอีกครั้ง)
2. สิทธิ์การซื้อเครื่อง iPhone 4S พร้อมแพ็กเกจ ผ่านช่องทาง AIS Online Shopping เฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการในระบบ AIS 3G รายเดือนมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน
3. สำหรับผู้ใช้บริการ Multi SIM จะต้องสมัครแพ็กเกจ  Multi SIM ตามจำนวนซิมที่ใช้งานเพิ่มเพื่อใช้งานใช้งานคู่กัน และเสียค่าบริการรายเดือน 20 บาท (ไม่รวม VAT) รายละเอียด คลิก
4. สำหรับผู้ที่ใช้บริการ/แพ็กเกจ เช่น แพ็กเกจโทรภายในกลุ่ม หรืออื่น ๆ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone Package ได้ บริการ/แพ็กเกจนั้น ๆ จะถูกยกเลิกทันทีก่อนทำการสมัคร iPhone Package
5. ลูกค้าจะต้องใช้แพ็กเกจติดต่อกันอย่างน้อย 12 รอบบิล นับตั้งแต่วันที่ตกลงชำระค่าเครื่องและค่าใช้บริการรายเดือนตามเงื่อนไข “ข้อตกลงรับสิทธิสำหรับลูกค้า” โดย
- ไม่สามารถยกเลิกใช้บริการ
- ไม่สามารถโอนย้ายเครือข่าย
- ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจ iPhone XL 670 เป็นแพ็กเกจอื่นได้
- ไม่สามารถโอนเปลี่ยนเจ้าของ
- ไม่สามารถเปลี่ยนระบบจากจดทะเบียนเป็นระบบเติมเงินได้
6.ความเร็วในการใช้งาน Internet หลังจากใช้งานครบตามปริมาณที่กำหนดแพ็กเกจ XL 670 เล่นเน็ตได้ไม่จำกัดที่ความเร็วสูงสุด 256 kbps
7. อัตราค่าบริการส่วนเกิน ค่าโทร และ VDO call นาทีละ 1.50 บ. ทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม. SMS ข้อความละ 2 บ. และ MMS ข้อความละ 4 บ.
8. สิทธิ์ในการใช้งานแพ็กเกจสามารถใช้งานได้ในแต่ละรอบบิลเท่านั้น ไม่สามารถยกยอดไปใช้ในรอบบิลถัดไปได้
9. ค่าบริการรายเดือนที่กำหนดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
10. ใช้งานได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น (ไม่รวามค่าบริการรับ – ส่งข้อมูลขณะอยู่ต่างประเทศ Data Roaming)
11. สามารถใช้ได้ในแต่ละรอบบิลเท่านั้น ไม่สามารถยกยอดคงเหลือสะสมไปยังรอบบิลถัดไป
12. ลูกค้าที่ใช้โปรโมชั่นอื่นๆ อยู่หากเปลี่ยนเข้ามาเป็น Package ดังกล่าวจะไม่เสียค่าเริ่มต้น โปรโมชั่น 30 บาท
13. สิทธิ์ในการซื้อสินค้า 1 หมายเลข / 1 สิทธิ์
14. สงวนสิทธิ์ในการรับประกันสินค้าตามเงื่อนไขการรับประกันของ Apple เท่านั้น ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ www.apple.com/legal/warranty
15. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สุดยอดโปรโมชั่นแห่งปีจากเอไอเอส 3G รายเดือน iPhone 5s ลด 5,050 บาท



เป็นโปรโมชั่นจาก AIS 3G ที่ผมว่าน่าสนใจมากๆสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะซื้อ iPhone 5s หรือ iPhone 5c ครับเพราะจากเงื่อนไขนั้นทำได้ไม่ยากเลย และมีส่วนลดสูงมากจริงๆครับอย่างคนที่ชอบโหลดอะไรเยอะแยะ iPhone 5s 64GB เค้าก็ลดจากราคาเครื่องเปล่าตั้ง 5,050 บาทแน่ะ สบายกระเป๋าขึ้นเยอะเลยแถมยังใช้ร่วมกับโปรโมชั่นส่วนลดค่าแพ็กรายเดือน 50%แถมให้ผ่อนสบายๆ 0% นาน 10 เดือนอีกด้วยสมกับเป็นโปรโมชั่นเพื่อเอาใจแฟนๆ iPhoneอย่างแท้จริงเลยละครับ แหม…..กระเป๋าตังค์ในมือแอดมินสั่น อิอิ

สำหรับโปรโมชั่นสุดคุ้มจะมีรายละเอียดดังนี้ครับ โดยเมื่อเพื่อนๆย้ายค่ายเบอร์เดิมมาใช้ AIS 3G แบบรายเดือน จะได้รับทันทีดังต่อไปนี้

1. ส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 5,050 บาท

2. ส่วนลดค่าแพ็กรายเดือน 50%

3. ผ่อนสบาย 0% นาน 10 เดือน

สามารถเข้าไปเช็คความพร้อมก่อนย้ายค่ายได้ที่  http://www.ais.co.th/mnp/index.html

ขอย้ายค่ายได้แล้ว ภายใน 13 – 23 ก.พ. 57 ที่ เอไอเอส ช็อป และ เทเลวิซ ทั่วประเทศ

ตารางราคาอย่างละเอียดของส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 5,050 บาทของ iPhone 5s และ 5cแต่ละรุ่น





เงื่อนไขการได้รับสิทธิ์ส่วนลด (อย่าลืมอ่านกันนะครับ)

1. สำหรับลูกค้าที่มาทำการขอย้ายค่ายเบอร์เดิมมายัง AIS 3G รายเดือน ในนามบุคคลธรรมดา ระหว่างวันที่ 13 – 23 กุมภาพันธ์ 2557 พร้อมสมัครและใช้แพ็กเกจรายเดือน 3G iSmart 999 บาท (พร้อมส่วนลด 50% นาน 6 รอบบิล) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 12 รอบบิล และไม่สามารถเปลี่ยนรายการส่งเสริมการขายได้

2. ผู้ใช้บริการสามารถซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นที่ร่วมรายการที่ เอไอเอส ช้อป และ ร้านเทเลวิซ ทุกสาขา เพื่อรับส่วนลดค่าเครื่องพร้อมสมัครใช้แพ็กเกจ สำหรับ iPhone 5S และ iPhone 5C เท่านั้น

3. ลูกค้าสามารถขอรับสิทธิ์หลังจากย้ายค่ายสำเร็จแล้ว เป็นระยะเวลา 2 วัน

4. ผู้ใช้บริการสามารถขอรับสิทธิ์ได้ที่เอไอเอส ช้อป หรือ ร้านเทเลวิซ  ภายใน30 วันหลังจากที่ระบบยืนยันการย้ายค่ายสำเร็จ โดยสามารถรับได้ 1 สิทธิ์ ต่อ 1 เลขหมายเท่านั้น

5. สิทธิ์ส่วนลดนี้จะใช้ได้ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ร่วมรายการและมีจำนวนจำกัด และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆได้

6. สิทธิ์ส่วนลดที่กำหนดเป็นส่วนลดค่าเครื่องจากราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และไม่สามารถโอนสิทธิ์ เปลี่ยนเป็นเงินสด หรืออื่นๆได้

7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมถึงการเรียกคืนส่วนลด เมื่อมีการยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงรายการส่งเสริมการขาย




สำหรับโปรโมชั่นส่วนลดค่าแพ็กเกจรายเดือน 50% นาน 6 เดือนจะมีเงื่อนไขดังนี้ครับ

เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย 3G iSmart

1. ส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% เป็นระยะเวลา 6 รอบบิลสำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่อง iPhone 5s และ iPhone 5c ทุกรุ่นและสมัครใช้บิรการแพ็กเกจนี้ครั้งแรกเท่านั้น

2. ค่าบริการส่วนเกิน

     •โทรทุกเครือข่ายและ VDO Call นาทีละ 1.50 บ.

     •SMS ข้อความละ 3 บ.

     •MMS ข้อความละ 4 บ.

3. สำหรับแพ็กฟรี AIS WIFI ระบบจะส่ง user name และ password ผ่านทาง SMS ให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติ ส่วนแพ็กฟรี AIS & 3BB Wifiลูกค้าสามารถรับ Username และ Password ได้โดยกด *388*88#โทรออก ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/Wifi

4. รับสิทธิ์นาน 12 รอบบิล

5. สิทธิ์การใช้งานฟรีและอัตราค่าบริการที่กำหนดสำหรับการใช้งานภายในประเทศเท่านั้น

6. สิทธิ์การใช้งานฟรีสามารถใช้ได้ในแต่ละรอบบิลเท่านั้น

7. อัตราค่าบริการที่กำหนดเป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

8. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

รายละเอียดในส่วนผ่อนสบาย 0% นาน 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ