วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รีวิว MacBook Pro with Retina Display รุ่นจอ 15″


เดิมทีผมมีแพลนที่จะรีวิว MacBook Pro with Retina Display รุ่นจอ 15″ อยู่แล้ว แต่ก็มีเหตุขัดข้องบางอย่างทำให้อดรีวิวไป แต่สุดท้ายเมื่อรุ่น 13″ ออกมา ซึ่งมีหลายอย่างที่คาใจมากกว่ารุ่น 15″ จึงขอนำมารีวิวเชิงแกะกล่องแบบไม่ลงลึกในสเปคให้ได้ดูกัน เผื่อจะพอเป็นไอเดียในการตัดสินใจได้บ้าง
กล่องของ MacBook Pro with Retina Display ดูเผินๆ แล้วไม่ต่างอะไรกับ MacBook Pro ธรรมดา เป็นดีไซน์ที่เรารู้ๆ กันดีอยู่แล้ว
อุปกรณ์ภายในก็มีมาให้ตามมาตรฐานได้แก่อแดปเตอร์แปลงไฟ, สายไฟ, หัวอแดปเตอร์แบบสั้น, และคู่มือการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตัวปลํ๊กไฟได้แบบสามขากลมๆ มาใช้
มาดูดีไซน์ภายนอกกันเลย แรกเริ่มหลักจากเห็นตัวเครื่อง 13-inch MacBook Pro with Retina Display ก็รู้สึกได้เลยว่าไม่ได้ต่างกับรุ่นปรกติอะไรมาก หากมองด้วยตาผ่านๆ จะแยกความบางไม่ค่อยออกเท่าไร ซึ่งตรงนี้ผิดคาดนิดหน่อยเพราะทีแรกคาดหวังใว้ว่าจะแต่งต่างแบบชัดเจนมากๆ แต่เอาเข้าจริงก็เหมือนๆ เดิม แต่ส่วนนึงต้องยกความดีความชอบให้ MacBook Pro Unibody รุ่นเดิมด้วยเพราะถือว่าเป็นอะไรที่ผ่านไปกี่ปีๆ ดีไซน์ก็ยังสวยบางเฉียบ พอมาเป็นดีไซน์คล้ายๆ เดิมแต่แค่บางลงเลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากเท่าไร
สำหรับรุ่น Retina นั้นจะมีส่วนของ I/O แต่งต่างกับรุ่น Unibody พอประมาณ โดยทั้งคู่มี USB 3.0 มาให้สองช่อง แต่รุ่น Unibody แบบเดิมจะมี FireWire 800 ให้ด้วย ส่วนรุ่น Retina จะเปลี่ยนจาก FireWire 800 เป็น Thunderbolt อีกช่องแทน (รวมมีสองช่อง) พร้อม HDMI อีกหนึ่งช่อง เรื่องว่าเรื่องการเชื่อมต่อนั้นครบครันใช้ได้เลยทีเดียว

มาว่ากันด้วยเรื่องของน้ำหนักกันบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากรู้ที่สุด ว่ามันจะเป็น MacBook Pro ที่เหมาะสมกับการพกพาไปไหนต่อไหนอย่างสบายใจหรือไม่ พอได้ยกเครื่องดูเท่านั้นแหละครับ! บอกได้คำเดียวว่า “หนักกว่าที่คิด” ซึ่งจากตัวเลขแล้วเครื่องรุ่นนี้วัดได้ 1.62 กิโลกรัม ผมจึงคิดว่าไม่น่ารู้สึกต่างกับ MacBook Air 13″ ที่หนัก 1.35 กิโลกรัมเท่าไร ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เรื่องความไม่รู้สึกต่างนั้นเป็นเรื่องจริงครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเบา (งงไหม?) ซึ่งเดิมทีนั้นผมเป็นคนพกพา MacBook Pro Unibody 15″ ไปไหนมาไหนด้วยตลอด เลยรับรู้ถึงความหนักในการแบกเครื่องดี พอได้มาจับ 13-inch MacBook Pro with Retina Display ก็สรุปง่ายๆ ว่าชีวิตไม่ได้ดีขึ้นกับน้ำหนักที่หายไปเท่าไรหากคุณเป็นคนพกของหนักอยู่ แล้ว
พอ เปิดเครื่องขึ้นมา คราวนี้แหละถึงจะเริ่มแตกต่างกับเครื่องรุ่น Unibody เพราะส่วนที่รองฝ่ามือจะบางกว่าเดิมแบบเริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้น แต่แน่นอนว่าก็ต้องแลกกับการตัด Optical Drive ออกซึ่งใครที่จำเป็นต้องใช้บ่อยๆ ก็ต้องหาซื้ออุปกรร์เสริมกันไป (ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้ใช้เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมาก)
มา ดูที่จอ Retina Display กันบ้างซึ่งน่าจะเป็นพระเอกของเครื่องนี้เลย ซึ่งจอของ 13-inch MacBook Pro with Retina Display มีความละเอียดอยู่ที่ 2560 x 1600 pixel แต่จะเสกลให้สแดงผลแบบ 1280 x 800 pixel ซึ่งทำให้บางโปรแกรมที่ปรับปรุงกราฟิกแล้วคมชัดถึงใจมากๆ เช่นพวกไอคอนบน Dock ก็คมชัดสุดๆ ซึ่งดูไม่เหมือนจอภาพของคอมพิวเตอร์ทั่วไปดูเหมือนสิ่งพิมพ์ความละเอียดสูง มากกว่า
ตรง เรื่องความละเอียดหน้าจอหลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจว่าความละเอียดสูงก็ อ่านลำบาก จริงๆ แล้ว Retina MacBook Pro ก็ใช้ความละเอียดหน้าจอเท่าคอมทั่วไปนั่นแหละครับ แต่มีการเบิ้ลความละเอียดของโปรแกรมที่รองรับให้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง หมายความว่าการทำงานทุกอย่างจะเหมือนกับทำงานบนจอความละเอียด 1280 x 800 pixel ที่รายละเอียดบางส่วนคมชัดเป็นพิเศษ นอกจากนั้นเรายังเลือกได้ด้วยว่าจะให้ OS X สเกลหน้าจอให้มีความละเอียดมากกว่า 1280 x 800 pixel ก็ได้ ซึ่งก็จะได้พื้นที่ทำงานที่มากขึ้นแต่ตัวหนังสือก็จะเล็กลง โดยเท่าที่ลองในโหมดสเกลความละเอียดนั้นก็ทำงานได้ดีมาก จอไม่ได้เบลออย่างที่คิดใว้ ใช้ได้เลยทีเดียว
การ ใช้งานจอ Retina กับเว็บไซต์ทั่วไป ตรงส่วนที่เป็นรูปก็จะเบลอนิดหน่อยเทียบกับส่วนที่เป็นตัวหนังสือ เพราะอย่างที่บอกว่าส่วนที่สามารถใช้ความละเอียแบบ Retina ได้นั้นจะคมชัดมากๆ แต่ส่วนที่เป็นรูปที่ปรับเปลี่ยนอะไรไม่ได้ก็จะออกมาเบลอและแปลกตาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากหากมองหน้าจอด้วยระยะเหมาะสม
สำหรับ ขนาดตัวเครื่อง น่าสนใจตรงที่ 13-inch MacBook Pro with Retina Display นั้นจะเล็กกว่า MacBook Air 13″ อยู่พอสมควร ซึ่งก็ดูกระทัดรัดกว่านิดหน่อย
สำ หรับเสปคคร่าวๆ ของตัวเครื่อง Retina ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรุ่น Unibody เท่าไร ด้านความแรงของ CPU นั้นเทียบเท่ากัน คือสามารถใช้งานแทบจะทุกประเภทได้ดีอยู่แล้ว แต่เรื่องของการ์ดจอน่าเสียดายหน่อยๆ ที่รุ่น Retina ก็ให้มาแค่ Intel HD Graphics 4000 เหมือนกับรุ่น Unibody แต่ยังดีที่รุ่น Retina ใช้ Flash Storage จึงน่าจะทำให้การใช้งานทั่วไปเร็วกว่าเดิมแน่ๆ แต่ก็เริ่มต้นเพียง 128GB เท่านั้น ไม่น่าจะพอกับการใช้งานในสมัยนี้แล้ว
หลัง จากที่ได้ลองเล่น 13-inch MacBook Pro with Retina Display สมใจอยากก็พอจะตอบข้อสงสัยส่วนตัวได้หลายๆ อย่าง เริ่มจากเรื่องน้ำหนักก็อย่างที่บอกไปว่าไม่ได้เบาอย่างที่คิด แต่ก็ให้มุมมองมาสองแง่ ก็คือถ้าคุณเป็นคนที่ใช้งาน MacBook Pro Unibody 13″ หรือ 15″ เดิมอยู่แล้ว การเปลี่ยนมาใช้รุ่น Retina Display จะช่วยให้ความสะดวกสบายในการพกพามีมากขึ้นแค่นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่คุณจะต้องยอมลงทุนเปลี่ยนเครื่องเพื่อมันซักเท่าไร แต่ถ้ามองถึงเรื่องช่องการเชื่อมต่อใหม่ๆ และการใช้ Flash Storage รวมไปถึงอยากใช้งานจอความละเอียดสูงอยู่แล้ว ก็น่าจะเป็นเหตุผลเสริมที่เพียงพอมากไปกว่าการอยากได้แค่น้ำหนักอย่างเดียว
แต่ สำหรับในมุมมองของคนที่คุ้นเคยกับ MacBook Air 13″ อยู่แล้ว ขอบอกเลยครับว่าการพก 13-inch MacBook Pro with Retina Display ที่หนักขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกหนักขึ้นเยอะจนเป็น ประเด็นแต่อย่างใด ซึ่งหากคุนรับน้ำหนักของ MacBook Air 13″ ได้แต่คิดว่ามันยังไม่แรงพอกับการใช้งาน การเลือกซื้อ 13-inch MacBook Pro with Retina Display ไปใช้งานแทนเครื่องเดิมผมว่าน่าสนใจมาก เพราะด้วยสเปคที่ดีกว่าจะทุกรูปแบบ แลกกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาเพียงแค่ไม่กี่กรัมจนไม่ค่อยรู้สึกต่าง ทำให้การมองมันเป็นตัวแทนของ MacBook Air 13″ น่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมากที่สุดนั่นเอง
ปล. ทั้งนี้การเลือกซื้อเครื่องก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานส่วนตัวด้วยนะครับ ว่าใช้ด้านไหนเป็นหลัก พกพาบ่อยแค่ไหน ซึ่งยังไงแต่ละคนน่าจะมีเหตุผลส่วนตัวกันอยู่แล้ว เลือกซื้อกันได้ตามความคิดของเราดีกว่าครับ 


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น