วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

Samsung Galaxy S4 เมื่อสมาร์ตโฟนเป็นทุกอย่างในชีวิตคุณ


Preview: Samsung Galaxy S4 เมื่อสมาร์ตโฟนเป็นทุกอย่างในชีวิตคุณ
Samsung Galaxy S4 ที่หลายท่านรอคอยมาอยู่ในมือ ป๋าเอก TechXcite แบบนี้ แล้วมีหรือที่เราจะพลาดนำมาPreview ให้ทุกท่านได้ติดตามกันสำหรับสมาร์ตโฟนเรือธง Android รุ่นล่าสุดจาก Samsung ที่มั่นใจได้เลยว่าน่าจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการโทรศัพท์มือถืออีกครั้งทั้งในแง่ของนวัตกรรมใหม่ๆที่มานำเสนอกันใน Samsung Galaxy S4 และยอดขายที่น่าจะทาบรัศมีรุ่นพี่อย่าง Samsung Galaxy S3 ไปได้ไม่ยากเลย
ทั้งนี้สำหรับ Samsung Galaxy S4 เองก็ถือได้ว่านำเสนอคุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆเยอะมาก (เข้าขั้นเยอะเอาการ) จนเล่นเอาคนรีวิวอย่างผมเองก็ถึงกับงงไปพักใหญ่ว่ามันจะอะไรกันนักกันหนา 555+ แต่ที่แน่ๆก็คือนวัตกรรมเหล่านี้ในSamsung Galaxy S4 ได้รับการออกแบบมาด้วยปรัชญาที่ว่า “ให้มือถือเป็นทุกอย่างในชีวิตคุณ” เรียกได้ว่าแค่มีโทรศัพท์เครื่องนี้เครื่องเดียวคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ อุปกรณ์อย่างอื่นให้มันวุ่นวายอีกต่อไป ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหนก็คงต้องรอเวลามาพิสูจน์กันละครับ
ปล. อย่างไรก็ตามบทความนี้ยังเป็นการ Preview คร่าวๆของ Samsung Galaxy S4 นะครับเพราะเฟิร์มแวร์เครื่องที่เราได้รับมานั้นยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย (ประมาณ 70% เห็นจะได้) แต่มั่นใจได้เลยว่าเครื่องที่จะวางจำหน่ายจริงของSamsung Galaxy S4 จะสมบูรณ์แบบครบถ้วนกระบวนความแน่นอน
นี่แหละครับหน้าตาของ Samsung Galaxy S4 ตัวจริงเสียงจริงครับ ขนาดจากในหน้าเว็บไซต์เขาระบุว่าอยู่ที่136.*69.8*7.9 มม. และน้ำหนัก 130 กรัม ซึ่งจากที่ผมได้ลองเล่นมาส่วนตัวคือต้องบอกว่าตัวเครื่องน้ำหนักเบาแถมจับ ถนัดมือดีทีเดียวหากเทียบกับ Samsung Galaxy S3 ตัวเก่าจริงๆครับ
และที่เห็นโดดเด่นเป็นสง่าใน Samsung Galaxy S4 ก็คือหน้าจอขนาด 5 นิ้วนี่แหละว่าสีสันมันยังคงความจัดจ้านถึงใจตามสไตล์ Super AMOLED เช่นเคย เพียงแต่คราวนี้ Samsung Galaxy S4 เลือกที่จะอัพเกรดความละเอียดหน้าจอเพิ่มเป็นระดับ Full HD 1080*1920 พิกเซลและ 441 ppi ซึ่งทำให้การอ่าน text ต่างๆหรือรับชมวิดีโอความละเอียดสูงออกมาสวยงามอลังการดีทีเดียว
ส่วนเรื่องความทนทานเองก็ไม่เบาเพราะหน้าจอของ Samsung Galaxy S4 ก็ผลิตมาจากกระจก Gorilla Glass 3 บักอึ้ดเวอร์ชันล่าสุดเป็นเจ้าแรกในวงการอีกต่างหาก การันตีความแข็งแกร่งตามประสาลิงยักษ์ได้เลย
ทางด้านบนของ Samsung Galaxy S4 จะเต็มไปด้วยเซนเซอร์มากมายเต็มไปหมด (ต้องบอกว่ารุ่นนี้มีเซนเซอร์ในการทำงานถึง 9 ประเภททีเดียว) แต่เอาเท่าที่เห็นกันชัดๆจากด้านซ้ายไปขวาก็จะมีเซนเซอร์วัดแสงสำหรับปรับ ระดับความสว่างหน้าจอด้วยเทคโนโลยี Samsung Adapt Display, ลำโพงสำหรับฟังการสนทนาเวลาโทรศัพท์, เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่หากเราเอามือกวาดขึ้น-ลงก็จะเป็นการเลื่อน หน้าจอด้วยเทคโนโลยี Smart Scroll, เซนเซอร์วัดระยะใกล้-ไกลที่จะปิดหน้าจอลงหากเราเอาแก้มแนบโทรศัพท์เวลาโทร และสุดท้ายคือกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลครับ
สำหรับปุ่ม Home ของ Samsung Galaxy S4 ก็ยังเป็นแบบแป้นๆกว้างๆเหมือนเดิมพร้อมทั้งปุ่ม Menu และปุ่ม Return ที่ถูกซ่อนไว้อย่างเนียนๆใต้ลวดลายภายในเครื่อง (จะเรืองแสงเมื่อกดใช้งานเท่านั้น)
ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาตรฐาน ส่วนที่มีพิสดารเพิ่มมาใหม่คือ IR Blaster ซึ่งจะเปลี่ยนSamsung Galaxy S4 ให้กลายเป็นรีโมทคอนโทรลสำหรับโทรทัศน์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ด้วย (ผมเอาไปลองมาละในห้างปิดทีวีตามร้านทั่วไปได้จริงๆแม้จะไม่ใช่ยี่ห้อ Samsung ก็ตาม!)
ในขณะที่ด้านล่างตัวเครื่อง Samsung Galaxy S4 จะเป็นพอร์ต MicroUSB และช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนาครับ
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S4 จะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงเพียวๆ ซึ่งรอบๆตัวเครื่องก็จะตัดขอบด้วยวัสดุอลูมิเนียมดูสวยดีไม่หยอกแฮะ
ส่วนทางด้านขวาของ Samsung Galaxy S4 ก็มีปุ่มเดียวเช่นกันคือปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่องนั่นเองจ้า
สำหรับฝาหลังของ Samsung Galaxy S4 ก็ยังคงความเป็นพลาสติกแบบโพลีคาร์บอเนตเช่นเคยอย่างที่หลายท่านชอบเรียกกัน ว่าพลาสติกขันน้ำ 555+ (ใครคิดคำนี้เนี่ย...ท่านแน่มาก!!!) แน่นอนว่าเหมือนจะดูบอบบางแต่ก็สามารถดัดงอได้หลายองศาทีเดียว แถมข้อดีของการมีฝาหลังแบบนี้ก็คือคุณสามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ในกรณีที่ เครื่องแฮงค์แล้วได้พยายามทุกหนทางแต่ยังไร้ความหมายก็กระชากแบตฯออกซะ เลย...ง่ายๆบ้านๆแบบนี้นี่แหละครับ
แต่ที่ดูดีมีสกุลรุนชาติขึ้นมาอีกเยอะใน Samsung Galaxy S4 ก็คือการลงลายฝาหลังและตัวเครื่องเป็นจุดๆรอบตัวเครื่องแบบนี้ซึ่งผมว่ามันสวยงามดูพรีเมี่ยมดีกว่าแบบเก่าเยอะเลย เห็นทาง Samsung บอกว่า Samsung Galaxy S4จะมีลายแบบนี้ถึงสองสีด้วยกันคือสีดำ Black Mist และสีขาว White Frost ซึ่งลายสีดำนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากม้าพันธุ์หนึ่งที่ขนเป็นสีดำแต่มีความ เงางามสลวยสวยเก๋เหมือนใช้ซันซิลค์ ส่วนสีขาวได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกล็ดหิมะ (ไม่ใช่ของกินนะ) ของทางฝรั่งมังค่าเขาละครับ
ในส่วนของกล้องหลัง Samsung Galaxy S4 ก็ถือว่าอัพเกรดขึ้นมาตามคาดกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED ซึ่งจะย้ายมาอยู่ใต้ตัวกล้องแทน แต่ลูกเล่นหลักของ Samsung Galaxy S4 คงไม่ใช่ความชัดของกล้องแต่เป็นฟีเจอร์ใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามานี่แหละ (เดี๋ยวมาขยายความตอนหน้า)
ปิดท้ายด้วยภาพเปรียบเทียบกันกับพี่น้อง Samsung ด้วยกันเองระหว่าง Samsung Galaxy S3 (ซ้าย), Samsung Galaxy S4 (กลาง) และ Samsung Galaxy Note 2 (ขวา) ซึ่งจะเห็นได้ว่าขนาดของ S3 กับ S4 ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่แต่ Samsung Galaxy S4 จะมีขอบหน้าจอที่เล็กลงทำให้จอใหญ่ขึ้นและตัวเครื่องที่มีความเป็นทรงสี่ เหลี่ยมมากขึ้น (จากเดิม S3 จะเน้นโค้งมนแบบธรรมชาติ) ส่วน Samsung Galaxy Note 2 ก็ไม่ต้องห่วงว่าไซส์จะใหญ่กว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเลยครับ
ถ่ายชอตด้านหลังเทียบลวดลายในการผลิตวัสดุฝา หลังของทั้ง 3 รุ่นกันอีกทีนึงครับ จะเห็นว่าอีกอย่างหนึ่งที่แตกต่างอย่างไม่ซ้ำกันสำหรับ 3 รุ่นนี้ก็คือตำแหน่งแฟลชกล้องหลังนี่แหละจ้า
ก็เอาเป็นว่าผมขอจบ Preview แบบคร่าวๆของ Samsung Galaxy S4 ไว้แค่นี้ก่อนละกันเพราะจริงๆแล้วยังมีฟีเจอร์ที่ต้องนำเสนอในมือถือรุ่นนี้ อีกเยอะมาก (เดี๋ยวจะทำมาเป็นคลิปให้ชมเต็มๆกันอีกทีละกัน) ส่วน Samsung Galaxy S4จะน่าฟาดหรือไม่ก็รอติดตามกันได้ในรายการ "Gadget น่าฟาด" ตอนใหม่ครับ (อันนี้ก็กำลังจะมาเหมือนกัน) วันนี้ขอลาไปก่อนชั่วคราวไว้โอกาสหน้าเจอกันอีกเร็วๆนี้จ้า บ๊ายบาย

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
 บทความโดย : ป๋าเอก TechXcite

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น