วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

Canon EOS 6D ใครๆก็บอกว่ากล้องตัวนี้ลืมใส่ Noise มาจากโรงงาน


ช่วงนี้กระแสกล้อง DSLR Full Frame กำลังมาแรง เพราะใครๆก็อยากที่จะจับจองเป็นเจ้าของกล้อง Full Frame และหนึ่งในตัวเลือกของหลายๆคนคงไม่พ้น Canon EOS 6D ตัวนี้ กล้องดิจิตอล Canon EOS 6D เป็นกล้อง DSLR จากค่าย Canon ที่เปิดตัวออกมาเพื่อตอบสนองกลุ่มช่างภาพที่ต้องการกล้องสำหรับการท่องเที่ยวถ่ายภาพ โดยเน้นคุณสมบัติเรื่องน้ำหนักเบาที่สุดในโลก และมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Full Frame ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล รวมถึงมี Built-in Wi-Fi และ GPS


แรกสัมผัสเจ้ากล้อง Canon EOS 6D ตัวนี้ ก็ต้องบอกว่าให้ความรู้สึกเหมือนกับที่ทาง Canon โม้ไว้ คือตัวกล้องน้ำหนักเบากว่ารุ่นพี่อย่างพวก 5D โดยโครงสร้างตัวบอดี้เป็นแมกนีเซียมอัลลอย มีเพียงส่วนด้านบนเท่านั้นที่เป็นโครงพลาสติกเพื่อสำหรับวางอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ Wi-Fi และ GPS ให้ทำงานได้เสถียรไม่มีอะไรไปบล็อคสัญญาณนั่นเอง


สำหรับการดีไซน์รูปร่างหน้าตาภายนอกนั้นดูๆไปแล้วคล้ายคลึงกับรุ่นพี่อย่าง Canon EOS 5D ทั้งสามซีรี่ย์อย่าง 5D Classic , Mark II และ Mark III และยังคงเอกลักษณ์กล้องระดับโปรด้วยการตัดเอาแฟลชหัวกล้องออกไป ซึ่งสาวก Canon คงทำใจได้ แต่จริงๆแล้วน่าจะมีมาให้หน่อย เพราะมีให้ดีกว่าไม่มี แต่ตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรนัก เพราะ Canon ได้ใส่เอาเทคโนโลยีระบบแฟลชไร้สายมาให้แทน ลงทุนซื้อแฟลชรุ่นที่รองรับการทำงานเท่านั้นเอง


การออกแบบด้านบนตัวกล้องที่ดูแล้วยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ Canon เอาไว้ ปุ่มเปิด-ปิด กล้องยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานยากไปนิดนึงอยู่เหมือนเดิม ส่วนแป้นปรับโหมดถ่ายภาพนั้นมีโหมด SCN หรือ Scene Mode ให้เล่น รวมถึงโหมดออโต้ต่างๆและโหมดถ่ายภาพทั่วไปครบครัน เรียกได้ว่ากล้องตัวนี้เหมาะสำหรับทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นที่ต้องการกล้องที่ทำงานง่าย ใช้สะดวกครับ


จอ LCD ด้านบนตัวกล้องที่ให้มา มีประโยชน์สำหรับการปรับตั้งค่าต่างๆได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการจัดวางตำแหน่งปุ่มต่างๆด้านบนที่รวมเอาเมนูสำคัญๆมาวางไว้ให้ช่างภาพใช้งานได้รวดเร็วมากขึ้น แน่นอนว่ามีแป้นควบคุมกล้องด้านหน้าไว้เลือกค่าต่างๆได้อย่างรวดเร็ว


Canon EOS 6D แน่นอนว่ามาพร้อมเซ็นเซอร์ Full Frame โดยกล้องตัวนี้ได้รับการออกแบบระบบการทำงานของเซ็นเซอร์ให้ดีขึ้น จนเรียกได้ว่าสามารถจัดการเรื่อง Noise ได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังมี Dynamic Range ที่กว้างให้รายละเอียดภาพที่ดีขึ้นอย่างมาก แต่ที่ประทับใจสุดๆก็คือเรื่อง Noise นี่แหละ ใช้ ISO สูงๆแล้วยังหาแทบไม่เจอ จนอดคิดไม่ได้ว่า Canon อาจจะลืมใส่ Noise มาให้ก็ได้นะ ยังไม่นับรวมระบบประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง DiGic5+ ที่ประมวลผลเร็วกว่าตัวเดิมถึง 3 เท่า พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าคุย ยังไงอ่านๆไปก่อน เดี๋ยวเอารูปมาให้ดูตอนท้าย


กล้อง Canon EOS 6D นั้น รองรับการใช้งานกับ SD Card โดยมีแค่สล็อตเดียว ตรงจุดนี้คิดว่าถ้า Canon ทำออกมาเป็น 2 สล็อตน่าจะเจ๋งกว่านี้ เพราะอย่างน้อยก็สามารถจัดการไฟล์ได้ง่ายกว่าช่องเดียวแน่ๆ


ด้านหลังของตัวกล้องดูเรียบง่าย ปุ่มต่างๆนั้นจะไม่เยอะมากเท่าไร เพราะแบ่งๆไปด้านบนตัวกล้องแล้ว จะมีแค่ปุ่มหลักๆที่ใช้นิ้วโป้งขวาในการควบคุมเช่นปุ่มถ่ายวีดีโอ ที่ง่ายและสะดวกในการใช้งานแค่เลื่อนก้านโยกโหมดถ่ายภาพ ส่วนวงแหวนมหัศจรรย์เอกลักษณ์ของ Canon ก็ยังคงมีอยู่ ด้านหลังนี้มีหน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ส่วนปุ่ม Menu ไปอยู่ด้านซ้ายใกล้ๆกับปุ่ม INFO คล้ายๆกับรุ่นอื่นๆ


และสำหรับพอร์ตเชื่อมต่อของ EOS 6D ตัวนี้ ออกแบบมาคล้ายๆกับรุ่นอื่นๆเช่นกัน รองรับทั้งสายลั่นชัตเตอร์ ไมโครโฟน USB และ HDMI ซึ่งโดยรวมของบอดี้กล้องตัวนี้ถือว่าไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ยังคงเอกลักษณ์การดีไซน์ของ Canon ทั้งการจับถือ การใช้วัสดุภายนอก
การใช้งานโดยรวมแล้ว Canon EOS 6D เป็นกล้องที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ใช้สนุก แม้ว่าช่างภาพที่ได้ลองจับครั้งแรกก็ไม่รู้สึกว่ามันเป็นกล้องที่ใช้งานยากเลย เนื่องจากปุ่มต่างๆ รวมถึงเมนูในหน้าจอ LCD อ่านง่าย แต่ให้รายละเอียดต่างๆครบถ้วน ยิ่งคนที่คุ้นเคยกับเมนูการใช้งานของกล้อง Canon มาก่อนแล้ว ยิ่งง่ายที่จะทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น


คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างสำหรับกล้องตัวนี้ก็คือเป็นกล้องที่มีระบบ Wi-Fi และ GPS มาให้ด้วย ซึ่งจุดนี้ช่วยอำนวยความสะดวกหลายอย่าง และถือเป็นจุดขายของ Canon EOS 6D เลยทีเดียว เพราะสามารถส่งข้อมูลไร้สายผ่านโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนได้ แถมยังสามารถควบคุมกล้องผ่านสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องไปหาซื้อรีโมทเพิ่ม หรือการใช้งาน GPS สำหรับระบุข้อมูลสถานที่ลงไปในภาพถ่ายเลย
ตัวอย่างหน้าจอแอพพลิเคชั่นครับ สามารถที่จะดูไฟล์จากในกล้องได้โดยตรงเลย จะลบภาพก็ไทำได้ แถมเซฟภาพลงมือถือได้ง่ายๆ อีกทั้งใช้มือถือควบคุมกล้องในการถ่ายภาพได้อีกด้วย โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าต่างๆได้จากแอพพลิเคชั่นโดยตรงครับ
จุดสังเกตอย่างนึงสำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อกล้อง Canon EOS 6D นั่นคือกล้องรุ่นนี้ในบางประเทศอาจไม่มีตัวรับส่งสัญญาณ Wi-Fi และ GPS ก็ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องกฎหมายของประเทศนั้นๆ ดังนั้นใครที่คิดจะไปซื้อกล้องที่ต่างประเทศหรือซื้อกล้องหิ้วต้องเช็คดีๆนะครับว่ามีออพชั่นดังกล่าวหรือเปล่า เพราะอาจแจ็กพอตได้กล้อง Canon EOS 6D ราคาถูกจริง แต่ไม่มีลูกเล่นอย่าง Wi-Fi หรือ GPS ให้ใช้งาน ซึ่งจุดนี้สังเกตง่ายๆตรงฐานกล้องบริเวณสติ๊กเกอร์ Serial Number จะมีรหัส (WG) ต่อท้ายคำว่า EOS 6D นั่นหมายความกล้องตัวนี้มีระบบ Wi-Fi และ GPS แต่หากเป็นรหัส (N) ก็แสดงว่าไม่มีออพชั่นดังกล่าวครับ และเดี๋ยวจากนี้ไป เราไปดูภาพตัวอย่างจากกล้องตัวนี้กันต่อเลยดีกว่า

มาดูเรื่องภาพและการใช้งานโดยทั่วไปของกล้อง Canon EOS 6D กันต่อ หลังจากที่ตอนแรกเกริ่นไว้ว่าประทับใจเรื่องของการจัดการ Noise ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่แค่เรื่อง Noise เรื่องเดียว แต่ยังมีอีกหลากหลายจุดที่กล้องตัวนี้ตอบสนองการถ่ายภาพได้ดีกว่าที่คิดครับ


การตั้งค่าต่างๆของตัวกล้องนั้นไม่ได้ปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมมากมายครับ ใช้งานอย่างมากก็แค่ปรับ Picture Style ไปเรื่อย ตรงจุดไหนที่มีการปรับค่าของกล้องแปลกออกไปจะอธิบายอีกทีละกันครับ


มาดูในเรื่องการถ่ายทอดสีสัน และรายละเอียดของภาพ เจ้ากล้อง Canon EOS 6D ตัวนี้ต้องบอกว่าสามารถเก็บเอาภาพสวยๆมาได้อย่างน่าทึ่ง ตัวกล้องเองนั้นไม่ได้ปรับแต่งอะไรมากนัก โทนสีนั้นสมจริง ส่วนรายละเอียดภาพก็คมชัด พูดง่ายๆสรุปสั้นๆว่า จบหลังกล้องได้เลย


โดยรวมของตัวบอดี้ ทั้งน้ำหนักและการจับถือ ให้ความรู้สึกว่านี่แหละคือกล้องที่เหมาะกับการท่องเที่ยวโดยไม่เป็นภาระจนเกินไป การถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ ถ้าต้องมาพะวงเรื่องน้ำหนักของอุปกรณ์อาจจะหมดสนุกไปได้ แต่ตัวนี้ชิลๆครับ บวกกับเลนส์ 24-105L ถ่ายสนุก ไปได้เรื่อยๆ แถมอย่างที่บอกไว้คือ ภาพต่างๆจบหลังกล้องได้เลย


จอ Live View ช่วยให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น สำหรับภาพตัวอย่างด้านบนใช้ Live View เพื่อจ่อเข้าไปใกล้ๆหน้าองค์พระพุทธรูปเนื่องจากติดรั้วครับ ระบบโฟกัสสำหรับ Live View เร็วใช้ได้เลย แม้ว่าจะเท่ากับการโฟกัสจากที่เรามองในวิวไฟน์เดอร์ แต่สำหรับถ่ายภาพที่อยู่นิ่งๆแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร ที่สำคัญคือเห็นภาพตัวอย่างก่อนถ่ายด้วย เสียอย่างนึงคือจอบิดพับไม่ได้ บางมุมแปลกๆเลยอาจจะถ่ายยากไปนิดนึง
เรื่องระบบโฟกัสของ Canon EOS 6D นั้น หากเป็นสภาพแสงทั่วๆไปสำหรับการถ่ายภาพที่ไม่ใช่ภาพกีฬาแอ็คชั่นนั้น บอกได้ว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ โฟกัสรวดเร็วและทำงานได้ดี จะมีปัญหาเมื่อเจอกับแสงทึมๆไม่ค่อยมีคอนทราสต์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สร้างปัญหาเรื่องออโต้โฟกัสให้กับกล้อง รูปตัวอย่างด้านบนถ่ายจากกระจกสีชิ้นเล็กๆที่ประดับอยู่แถวๆนั้นครับ วืดวาดพอสมควรต้องหันมาใช้ระบบโฟกัสแบบ Manual


ในการถ่ายภาพกลางแจ้งทั่วไป Canon EOS 6D ตอบสนองการทำงานได้ดีหมดทุกอย่างเลยครับ ตั้งค่า AUTO ง่ายๆ กล้องก็บันทึกภาพสวยๆมาให้ Dynamic Range ทำได้ดีทีเดียว ไม่ต้องไปแตะอะไรมาก ถ้าเอาไฟล์ RAW มาแต่งอีกทีก็น่าจะสวยมากขึ้นอีกเป็นกอง


ตัวเซ็นเซอร์ Full Frame แน่นอนว่ามันสร้างมิติภาพได้สวยงาม เล่น DOF แบบง่ายๆกับภาพตัวอย่างด้านบน แม้จะถ่ายวัตถุที่ดูเรียบง่ายธรรมดาแต่ก็ออกมาสวยงามได้อย่างน่าประทับใจครับ เปิด F4 จ่อใกล้ๆ เบลอกันเลยทีเดียว


ช่องมองภาพของ Canon EOS 6D ให้ภาพ 97% ใครที่จริงจังกับเรื่องการจัดองค์ประกอบภาพที่ต้องให้เนี้ยบ เป๊ะ แนะนำว่าถ้าใช้ตัวนี้ให้เปิด Live View แทนครับ ตรงจุดนี้ไม่ขอคอมเมนท์แล้วกันเพราะเป็นข้อจำกัดของกล้องที่ผู้ใช้งานควรทราบครับ


ระบบถ่ายภาพ HDR น่าจะถูกใจขา Landscape เพราะจัดมาให้อยู่ในกล้องเลย โดยกล้องจะถ่ายภาพต่อเนื่อง 3 ภาพในค่าแสงต่างๆกัน ก่อนที่จะนำมาประมวลผลเป็นภาพเดียว อย่างเช่นตัวอย่างในภาพลองถ่ายภาพย้อนแสงกันแบบจังๆเลยทีเดียว กล้องสามารถให้ภาพที่สวยงามและเห็นรายละเอียดได้ดี ในขณะที่ท้องฟ้าก็ไม่ขาวโพลนจนขาดสีสัน โหมดนี้สามารถปรับค่าได้ 3 ระดับหรือจะปรับแบบ Auto ก็ได้


ระบบโฟกัส 11 จุด ของ Canon EOS 6D ถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับกล้องระดับนี้ แต่กลุ่มเป้าหมายหลักของผู้ใช้กล้องตัวนี้อย่างที่กล่าวว่าน่าจะเป็นคนถ่ายรูปท่องเที่ยว ไม่ใช่เอาไปถ่ายกีฬา ระบบโฟกัสของกล้องตัวนี้เพียงพอที่จะจับโฟกัสได้และรวดเร็วพอ


กล้องตัวนี้ลุยได้แค่ไหน ลองเอาไปทดสอบโต้คลื่นดู ไม่มีปัญหาอะไรครับกับละอองน้ำที่กระเด็นเปียกตัวกล้อง เช็ดๆไป เอามาถ่ายต่อได้แน่นอน ตัวกล้องออกแบบได้ทนทานครับ ใครจะเอาไปใช้ลุยๆก็พร้อมอยู่แล้ว เราไม่ได้เอากล้องไปจุ่มน้ำนะครับ เอาไปถ่ายรูปแต่บางสถานการณ์ที่ต้องลุย กล้องตัวนี้ไปไหนไปกัน ไม่ใช่น็อกกลางทริป

ลองย้อนแสงอีกสักใบ ทดสอบเรื่องระบบโฟกัสและวัดแสงไปด้วย จากการทดสอบถือว่าโฟกัสได้เร็ว เข้าเป้า แถมระบบวัดแสงก็ยอดเยี่ยมด้วย (ใช้ระบบวัดแสงเฉพาะจุด) ที่น่าทึ่งก็คือ Dynamic Range ของภาพที่กว้างสะใจ เห็นรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างค่อนข้างมากทีเดียว


ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.5 ภาพต่อวินาที แม้จะไม่รวดเร็วเท่ากับตัวอื่นๆในตลาด สำหรับการใช้งานทั่วๆไปก็สามารถจับแอ็คชั่นดีๆในจังหวะสวยๆได้ครับ กล้อง Canon EOS 6D ให้เทคโนโลยีดีๆมาหลายอย่างครับ โฟกัส วัดแสง คุณภาพไฟล์ ขนาดพิกเซลที่จะเอามายำตัดครอปได้ง่ายๆ รวมๆแล้ว เอาอยู่


ภาพยามเย็นสักภาพ ดูกันเพลินๆครับ โหมด M ไม่มีขาตั้งกล้อง เลยต้องใช้กระเป๋าแทนขาตั้งกล้อง วางหล้องแล้วปรับระบบถ่ายภาพแบบตั้งเวลากดชัตเตอร์แล้วปล่อยให้กล้องทำงานของมันไปครับ


ถ่ายคน ถ่ายอีเวนท์ รับงานได้ไหม สำหรับ Canon EOS 6D ตอบว่าได้ครับ แทบไม่มีปัญหาอะไร ถ้าไม่ได้ถ่ายอะไรที่มันเคลื่อนไหวรวดเร็วนัก โฟกัสในที่มีแสงนิดหน่อยหรือคอนทราสต์ไม่ต่ำมากก็พอไหว ที่สำคัญไม่ต้องใช้แฟลช ดัน ISO เก็บแสงสวยๆในงานอีเวนท์ได้สบายๆ ไม่มี Noise กวนใจ


พูดถึงเรื่อง Noise แล้ว ลองดูภาพตัวอย่างนะครับ ภาพใหญ่นั้นถ่ายที่ ISO 25600 ย่อลงเว็บแบบนี้แล้วหายหมด แถมรายละเอียดภาพก็ดีด้วย แต่ถ้ายังไม่สะใจลองดูตัวอย่างภาพที่ครอป 100% มาให้ชมนะครับ จะเห็นว่าที่ ISO 12800 Noise จะมานิดๆ ส่วน ISO 25600 มีให้เห็นบ้างแต่น้อยมากๆเลย เอาเป็นว่าถ้าอยากให้มองแทบไม่เห็นก็เลือกไปที่ 6400 ละกัน น่าจะเหลือเฟือสำหรับการถ่ายภาพทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างเราๆ
สำหรับการรีวิว Canon EOS 6D ครั้งนี้ หวังว่าคงถูกใจคนที่กำลังจะมองหากล้องใหม่สักตัว ซึ่งหากจะสรุปถึงกล้องตัวนี้โดยรวมก็ต้องขอบอกกว่า กล้อง Canon EOS 6D เป็นกล้องที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว หรือเป็นช่างภาพที่อยากจะอัพเกรดตัวเองขึ้นมาเล่น Full Frame คุณสมบัติโดยรวมของกล้องถือว่าตอบโจทย์การถ่ายภาพได้หลากหลาย และใช้งานง่าย แต่คงไม่เหมาะกับช่างภาพที่เน้นถ่ายภาพแอ็คชั่นเพราะดูเหมือนว่าเรื่องระบบโฟกัสยังไม่สามารถตอบสนองการทำงานได้ดีเหมือนอย่างพวก 5D MarkIII หรือ 1DX

จุดเด่น

    บอดี้แข็งแรง น้ำหนักเบา
    ระบบ Wi-Fi และ GPS อำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพ แชร์ภาพและบันทึกข้อมูลด้านสถานที่
    จัดการเรื่อง Noise ได้ดียอดเยี่ยม 
    คุณภาพไฟล์โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
    การใช้งานง่าย

ข้อสังเกต

    จุดโฟกัสน้อย
    ไม่มีแฟลชหัวกล้องให้ใช้งานยามจำเป็น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น